ในสถานการณ์เช่นนี้ หลายองค์กรยังทำงานเป็นปกติ เพียงปรับรูปแบบการทำงาน ให้พนักงานกลับมาทำงานที่บ้าน เจ้านาย เจ้าของ หัวหน้าก็ยังอยากได้งานจากลูกน้อง คนทำงานเองก็อยากทำงานที่บ้านได้ ก็เลยเกิดคำถามจากหัวหน้าและตัวลูกน้องเองว่า แล้วจะทำงานจากที่บ้านอย่างไรให้มันมีประสิทธิภาพ เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิมล่ะ

คงไม่มีใครอยากให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราเองก็คงต้องปรับตัวและป้องกันตนเองก่อน วันนี้เลยอยากแบ่งปันให้มองหาข้อดีในสถานการณ์ที่มันไม่ดี เผื่อจะช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้นได้บ้าง ไม่มากก็น้อย     #10ข้อดีของเหตุการณ์ไวรัสโคโรน่า

เห็นพอถึงวันปีใหม่ทีไร ทุกคนดูมุ่งมั่น อยากมีไฟทำเป้าหมายให้สำเร็จ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฝันบางคนอาจเลือนลาง เป้าหมายอาจดู ยิ่งไปไกล จนบางครั้งล้มเลิกกลางทางก็มี

ปีใหม่ก็ผ่านไปแล้ว หลายคนน่าจะตั้งเป้าที่จะทำกันบ้างแล้ว มีการทบทวนปีที่ผ่านมากันบ้าง บางอันก็สำเร็จไปเรียบร้อย บางอันก็ยังเป็นเป้าที่ค้างไว้เนิ่นนาน

How to ทิ้ง นิสัยที่ควรหยุดก่อนขึ้นปีใหม่ ======================== เห็นหนังเรื่องนี้เพิ่งเข้าฉาย How to ทิ้ง วันนี้เลยมี 5 นิสัยที่ควรหยุด 🙅‍♀️🖐มาแบ่งปัน หากใครอยากมีไฟในการทำงานทุกๆวัน . . 1. นอนตื่นสาย 😴 การที่เรานอนดึกแล้วตื่นสาย

ซีรีย์ส์: ผู้หญิงเปลี่ยนโลก ตอน “แค่อยากรู้อยากเห็น” . (อาจจะยาวซักหน่อย แต่อยากให้อ่าน เผื่อเรื่องนี้จะEnergizeใครได้บ้าง) . . จากเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นว่า... นาฬิกาปลุกมันทำงานยังไง⏰

เคยไหมว่าเข้าใจที่เธออธิบายให้เราฟังนะ ใจเราอยากทำตามที่เธอบอกมากๆ แต่สุดท้ายเราก็ยังไม่กล้าลงมือทำซะที

ปีนี้ในเดือน พค.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศรวมเบิร์นเอ๊าต์(BurnOut) ไว้ในบัญชี จำแนกโรคระหว่างชาติขององค์การอนามัยโลก เป็นปรากฎการณ์ด้านการทำงานอาชีพ เป็นกลุ่มอาการผลรวมจากความเครียดเรื้อรัง และมิใช่โรคทางการแพทย์หรือความเจ็บป่วยใด

เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง อาจจะยาวไปซักนิด น่าจะมีข้อคิดอยู่หลายมุม ซึ่งได้ขออนุญาตเจ้าของเรื่องเรียบร้อยแล้ว หลังเลิกงานของเย็นวันหนึ่ง ที่ฝนตกปรอยๆเม็ดใหญ่ ขณะขับรถกลับบ้านคนเดียว ครูของฉันได้มีอาการหายใจไม่สะดวก

พวกเราคงได้ยินข่าวที่หลายองค์กรลดจำนวนพนักงานลง และใช้เทคโนโลยีเครื่องจักร เข้ามาแทนที่มนุษย์แทน  ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เข้ามาสู่ยุค 4.5 G